หน้าหลัก บทความทั่วไป

แคปชั่นขายของที่ดี ยอดขายปัง

1145 views

แคปชั่นขายของที่ดี ยอดขายปัง

แคปชั่นขายของที่ดี ยอดขายปัง

แคปชั่นขายของที่ดี ยอดขายปัง ถ้าคุณเป็นคนที่ทำการตลาดออนไลน์ ขายของผ่านโซเชียลเป็นหลัก การเขียนแคปชั่นขายสินค้าถือเป็นสิ่งสำคัญมากพอ ๆ กับรูปภาพสินค้า หลายคนประสบปัญหาคิดแคปชั่นขายสินค้าไม่ออก ไม่รู้จะเขียนแคปชั่นขายของยังไง ไม่ทราบวิธีหรือเทคนิคการเขียนแคปชั่นให้ปัง ให้น่าสนใจ ส่งผลให้ขายสินค้าไม่ได้ หรือขายได้น้อย เพราะการสื่อสารยังไม่ดีพอ เตรียมปากกากับกระดาษของคุณให้พร้อม หากพร้อมแล้วเรามาเรียนรู้เทคนิคเขียนแคปชั่นโฆษณาขายของออนไลน์อย่างไรให้รวยกันค่ะ

เขียนแคปชั่นขายแบบ FAB

เทคนิคการเขียนแคปชั่นขายของแบบพูดถึงคุณสมบัติ จุดแข็งของสินค้า เป็นเทคนิคการเขียนทีคนขายออนไลน์เลือกใช้มากที่สุด เพราะว่าเหมาะกับสินค้าที่มีคู่แข่งเยอะ สินค้าที่จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างให้ลูกค้ารับรู้ให้ได้ เพื่อเปิดโอกาสในการขายสินค้าให้สำเร็จ โดย FAB ย่อมาจาก

  1. Features : ต้องบอกถึงคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการของร้านเราให้ได้
  2. Advantages : บอกจุดแข็งหรือความแตกต่างของสินค้า ดีกว่าหรือต่างจากสินค้าชนิดเดียวกันในท้องตลาดอย่างไรบ้าง จุดแข็งของสินค้าที่ช่วยแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างแน่นอน
  3. Benefits : ประโยชน์หรือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ลูกค้าจะได้รับ เมื่อซื้อหรือใช้งานจากสินค้าของเรา

ตัวอย่าง Feature Advantage and Benefit (FAB)

  1. Features : เคสโทรศัพท์ป้องกันการกระแทกจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะทำตก หรือทำหล่นจากที่สูง
  2. Advantages : เคสโทรศัพท์รุ่นพิเศษทำจากวัสดุพรีเมี่ยม รองรับแรงกระแทกได้สูง ป้องกันทั้ง 4 มุมของโทรศัพท์
  3. Benefits : ปกป้องโทรศัพท์ทั้ง 4 มุม ตกจากที่สูงก็ไม่ต้องกลัวหน้าจอแตกหรือโทรศัพท์รวน

เทคนิคเขียนแคปชั่นขายแบบ BAB

เทคนิคการเขียนแคปชั่นแบบมีการเปรียบเทียบ ก่อนใช้กับหลังใช้งาน เหมาะกับสินค้าหรือบริการที่มีการวัดผลได้อย่างชัดเจน เห็นผลลัพธ์หลังจากการใช้งานเป็นเครื่องพิสูจน์สินค้า โดย BAB ย่อมาจาก

  1. Before : ก่อนจะเจอสินค้าจากเราลูกค้ามีความต้องการอย่างไร ปัญหาของลูกค้าคืออะไร
  2. After : เมื่อใช้สินค้าจากเรา ลูกค้าจะได้รับ สะดวกขึ้น ดีอย่างไร ช่วยแก้ปัญหาจุดไหนของลูกค้าบ้าง
  3. Bridge : จุดเชื่อมระหว่าง Before และ After คือสินค้าของเรา ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ผลลัพธ์ไปเป็น After
ตัวอย่างแคปชั่นขายแบบ Before After and Bridge (BAB)
  1. Before : มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวหยาบกร้าน มีจุดด่างดำ จากการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
  2. After : ฟื้นฟูผิวหน้ากลับมาขาวใสได้อีกครั้งในระยะเวลา 30 วัน
  3. Bridge : ครีมกันแดดของเราช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยส่วนผสมที่ดีที่สุด ช่วยสร้างเส้นใยผิวหนังให้แข็งแรง ป้องกัน UVA และ UVB ให้ได้ผล มีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

เทคนิคเขียนแคปชั่นขายแบบ PAS

เทคนิคการเขียนแคปชั่นแบบมีการขยี้ความเจ็บปวด ชี้ปัญหาที่ลูกค้าของเรากำลังประสบอยู่นั้น เพื่อสร้างโอกาสในการขายสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผู้ขายเองก็ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วยนะคะ โดย PAS ย่อมาจาก

  1. Pain, Problem : ต้องเข้าใจถึงความทุกข์ ความเจ็บปวด หรือปัญหาของลูกค้าที่กำลังประสบอยู่ในขณะนั้น
  2. Agitate : ชี้ให้เห็นว่าปัญหาที่ลูกค้ากำลังพบ ส่งผลกระทบหลายอย่าง ต้องแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว
  3. Solve : สินค้าจากเราช่วยแก้ปัญหาที่ลูกค้ากำลังพบอยู่ได้อย่างแน่นอน
ตัวอย่างเขียนแคปชั่นขายแบบ Problem Agitate and Solve (PAS)
  1. Pain, Problem : นอนหลับไม่สนิท ปวดหลังขณะนอน
  2. Agitate : ส่งผลให้ตื่นเช้าไม่สดชื่น ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ อารมณ์หงุดหงิดง่ายจากการนอนหลับไม่สนิท
  3. Solve : เปลี่ยนเป็นที่นอนยางพารา รองรับสรีระร่างกายได้ดี ไม่ปวดหลัง ปวดคอ หลับสบายตลอดคืน ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ ตื่นเช้าพร้อมรับวันใหม่กับความสดชื่น

นอกจากแคปชั่นสินค้าที่ดี คนขายออนไลน์ก็ยังต้องรู้จักการถ่ายรูปสินค้าให้สวย สองอย่างนี้จะช่วยให้ลูกค้าสนใจสินค้าได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เมื่อลูกค้าหยุดดูภาพสินค้าแล้วอ่านแคปชั่นโฆษณาของเราจนทักแชทเข้ามา จะช่วยให้มีโอกาสขายมากขึ้น เทคนิคเขียนแคปชั่นสินค้าเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ทำให้สินค้าน่าสนใจ ก็ยังประยุกต์ใช้กับการปิดการขายกับลูกค้าได้อีกด้วยนะคะ อยากปิดการขายให้เร็วทันใจ ก็ต้องใช้สรุปสินค้า แจ้งยอดโอน พร้อมบอกเลขบัญชีให้ลูกค้าในครั้งเดียวค่ะ

สำหรับคนที่ขายของออนไลน์อยู่แล้ว คงไม่ต่องบอกว่าการทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) นั้นมีความสำคัญขนาดไหน วิวัฒนาการของ Online Marketing เริ่มครั้งแรกๆเมื่อปี 2000 เป็นการส่ง E-Mail และ การทำ Website แต่เมื่อเวลาผ่านไปในปี 2004 จนถึงปัจจุบันนี้ปี 2014  ช่วง 10 ปีทองนี้ ถือเป็นถือเป็นยุคที่ Social Media ครองเมือง จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “Content Marketing (การตลาดเชิงเนื้อหา)” ขึ้นมา

จริงๆแล้วการทำ Online Marketing นั้นมีหลายวิธี แต่วิธีหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคนที่ขายของออนไลน์บน Facebook โดยตรงเลยก็คือการทำ Content Marketing … พอได้ยินศัพท์ภาษาอังกฤษแปลกๆ แบบนี้แล้ว ก็อย่าเพิ่งถอดใจไปล่ะ เพราะแท้ที่จริงแล้ว แก่นแท้ของของ Content Marketing นั้นเรียบง่ายมากๆ แค่ “เขียนให้ดี เขียนให้โดน” เท่านั้นเอง เราสามารถนำหลัก Content Marketing นี้ไปใช้ได้กับสื่อทุกแขนง !  ตั้งแต่การเขียนประกาศโฆษณา การเขียนอีเมล การเขียนสคริปวิดีโอ และล่าสุด “การตั้งสเตตัสบน facebook”

ในเมื่อ facebook เป็นที่เราเล่นอยู่แล้วทุกวัน แล้วทำไมเราจะเปลี่ยนมันเป็นยอดขายไม่ได้ล่ะ?

โพสขายของบน facebook ต่างกับการโพสขายของที่อื่นอย่างไร?

1. ต้องไม่ Hard Sale จนเกินไป

2. ต้องโพสอย่างสม่ำเสมอ ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม

3. ต้องอ่านสนุก อ่านเพลิน พร้อมแชร์ต่อ

 ต้องไม่ Hard Sale จนเกินไป

Hard Sale หรือ การขายแบบโต้งๆ เป็นรูปแบบการโพสที่พ่อค้าแม่ค้าควรหลีกเลี่ยงค่ะ บางคนอาจจะบอกว่า อ้าว! ขายของ ไม่ให้โพสขายของแล้วจะให้โพสอะไร? ใจเย็นๆค่ะ เราไม่ได้บอกว่าห้ามขาย เพียงแต่ให้ “ขายแบบเนียนๆ” เท่านั้นเอง

ถ้าอยากให้เพจของเรากลายเป็นเพจในดวงใจของลูกค้า ชนิดที่ว่าเปิดเข้ามาเองไม่ต้องพึ่งโฆษณา เราก็ต้องโพสอย่างมีศิลป์ ทำให้ลูกเพจไม่รู้สึกอึดอัด ทำได้ง่ายๆโดยการโพสขายของสลับกับโพสสาระอื่นๆที่น่าสนใจ หรือโพสแนวชวนคุยทั่วๆไป ที่เกี่ยวกับสินค้า/ผลิตภันฑ์ของเรา เป็นต้น

ต้องโพสอย่างสม่ำเสมอ ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม

มีสถิติบอกว่า ช่วงเวลาในการโพสต์ที่ดีที่สุดคือ วันธรรมดา ระหว่าง 6am-8 am และ 2pm-5 pm ขณะที่ช่วงเวลาสุดแป๊กคือช่วง 10pm – 4am ของช่วงสุดสัปดาห์ สำหรับสาเหตุที่คุณควรจะโพสต์ในช่วงเวลาก่อนทำงาน ช่วงหลังพักเที่ยง และช่วงหลังเลิกงานนั้นเป็นเพราะผู้ใช้ Facebook ส่วนใหญ่จะไม่เช็ค News Feed ระหว่างที่พวกเขาทำงาน และ 80% ของผู้ใช้ทั้งหมดนิยมเช็คข่าวทุกเช้าผ่านสมาร์ทโฟนของตัวเอง ดังนั้นหากเราจะโพสอะไร ก็ควรโพสในช่วงเวลาเหล่านี้ เพราะนั่นหมายความว่าโอกาสที่คนจะมองเห็นโพสเราย่อมมีมากขึ้นด้วย

แต่ใช่ว่าสถิติดังกล่าวจะใช้ได้กับทุกคนนะคะ เพราะบางครั้ง สินค้าแต่ละประเภทก็มีฐานลูกค้าที่ต่างกัน ถ้าเป็นไปได้ ขอให้เราวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าของเราให้ออกดีกว่า วันนี้เราลองสรุปกลุ่มสินค้าตัวอย่างกับเวลาโพสที่เหมาะสม เช่น

 1. เสื้อผ้าและแฟชั่น : การติดตามของผู้บริโภคจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในวันธรรมดา จะสูงที่สุดคือวันพฤหัสบดี
2. เทคโนโลยี : จะสูงที่สุดในวันจันทร์ และจะน้อยลงเรื่อยๆ จนในช่วงสุดสัปดาห์ วันเสาร์ และอาทิตย์ไม่ควรโพสต์
3. ท่องเที่ยว และการเดินทาง : วันหยุดสุดสัปดาห์เป็นเวลาที่ค่อยข้างดี และมีคนติดตามมาก
4. สินค้าพวกอุปโภคบริโภค : วันเสาร์ อาทิตย์ และวันพุธเป็นช่วงที่ดีที่สุด
5. วงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ : ช่วงเวลาที่คนติดตามมากที่สุดคือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
6. ธุรกิจบันเทิง : แนะนำให้โพสต์ในวันเสาร์ และอาทิตย์ จะดีที่สุด
7. ธุรกิจทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ : โพสต์ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ช่วยเพิ่มการตอบโต้จากผู้บริโภคมากขึ้น
8 สถาบันการเงิน : เน้นการโพสต์ช่วงเสาร์อาทิตย์และวันศุกร์
9. อาหารและเครื่องดื่ม : ช่วงวันธรรมดาจะเป็นช่วงเวลาดีในการโพสต์ของธุรกิจนี้ โดยจะสูงที่สุดในวันจันทร์
10. กีฬา สุขภาพและความงาม : วันอาทิตย์และวันจันทร์ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมของธุรกิจนี้

ต้องอ่านสนุก อ่านเพลิน พร้อมแชร์ต่อ

อย่างที่บอกไปในข้อ 1 แล้วว่าเราต้องไม่ Hard Sale เกินไป อีกตัวช่วยหนึ่งที่ช่วยให้เพจเรามีสีสันขึ้นมาง่ายๆ ก็คือ “การโพสบทความชวนแชร์” นั่นเอง คัวอย่างบทความชวนแชร์ :

-โพสเกมร่วมสนุกชิงของรางวัลด้วยการ Like and Share -Promotion เด็ดๆที่ชวนให้แชร์ต่อ -โพสรูปภาพสวยๆ พร้อมคำคมเด็ดๆ

-โพสสาระน่ารู้ที่มีประโยชน์ อ่านแล้วอยากแชร์เลย 

จะเห็นได้ว่า การโพสแบบนี้อาจจะไม่ได้สร้างยอดขายได้โดยตรง แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ จนมีลูกเพจติดตามเพจเราเป็นจำนวนมากแล้ว เมื่อนั้นแหละที่เพจร้านค้าของเพื่อนๆจะกลายเป็นสังคมออนไลน์ย่อมๆ กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพระหว่างเรากับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ที่นี้ไม่ว่าจะขายอะไร จะประกาศ หรืออยากให้ภาพลักษณ์ของเราเป็นแบบไหน ก็โปรโมตง่ายๆผ่าน Facebook Fanpage ของเราได้เลย !

สำหรับตอนหน้า ถือว่าเป็นตอนปิดท้ายของซีรีส์ “เปิดคัมภีร์ขายของบน facebook” แล้ว ในตอนต่อไปเราจะมาสรุปเครื่องมือ&ตัวช่วย ที่เพื่อนๆพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขาดไม่ได้เลยในการขายของ ใครกลัวตกเทรนด์

อ่านเพิ่มเติม การพยากรณ์อากาศที่ดี วิธีลงและติดตั้ง Windows 10  Microsoft Office 365 คืออะไร วิธีการเลือกใช้ฟอนต์ที่ดีในการทำงาน My Hero Academia  Jokergame Joker Gamimg pg slot สล็อต slot

Tags :

Joker

Last Update : 18 พฤษภาคม 2021

.... หน้าหลัก